1.gif (7438 bytes)
หน้าสารบัญ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า
สิบ สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด


lo1.gif (2390 bytes)     . ถาม เมื่อได้รับทราบเหตุผลว่า การที่ผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องคอยเฝ้าพิจารณาดูกายคืออิริยาบถอยู่เนืองๆนั้นก็เพื่อต้องการจะเห็นความจริงของขันธ์ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงอยากทราบต่อไปว่า เมื่อเราพยายามเฝ้าพิจารณาดูอิริยาบถอยู่อย่างนี้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรเกิดขึ้นบ้างเล่า

lo1.gif (2390 bytes)     ตอบ หากจะมีคำถามสอดเข้ามาว่าอะไรเป็นสภาพที่ปิดบังทุกข์เล่า ตามความจริงเราก็จะต้องตอบว่า อิริยาบถนั่นแหละเป็นผู้ปิดบังทุกข์ เราจึงไม่เห็นความจริงของทุกข์คืออิริยาบถ คราวนี้ความทุกข์ในที่นี้มีสองอย่าง คือ - ทุกข์ในอิริยาบถเก่า ทุกข์ในอิริยาบถใหม่ ทุกข์ในอิริยาบถเก่าเรียกว่า d1.GIF (11900 bytes)

"ทุกขเวทนา" อันนี้ใครๆก็รู้ คือเมื่อเดินหรือยืนนานๆก็เป็นทุกข์ อย่างนี้ใครๆเขารู้กันทั้งนั้น แต่ทว่าทุกข์ในอิริยาบถใหม่หามีใครรู้ไม่ เพราะทุกคนเมื่อถูกความทุกข์ในอิริยาบถเก่าบีบคั้นเข้า ต่างคนต่างก็ผลัดเปลี่ยนไปหาอิริยาบถใหม่ด้วยกันทั้งนั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเห็นผิด โดยคิดไปว่าถ้าเราเปลี่ยนอิริยาบถเสียได้ก็จะสบาย นี่ทุกคนคิดกันอย่างนี้ทั้งนั้น แต่หารู้ไม่ว่าแม้ถึงอิริยาบถใหม่ที่ตนคิดว่าสบายนั้นก็เป็นตัวทุกข์เหมือนกัน แต่ทุกข์ชนิดนั้นเป็นของละเอียดเราจะรู้ไม่ได้ด้วยสามัญสำนึกของคนโดยทั่วไป ท่านได้เปรียบความทุกข์ในอิริยาบถเก่ากับทุกข์ในอิริยาบถใหม่ว่า เหมือนกับเถาหัวด้วน ธรรมดาของต้นเถาหัวด้วนมักจะเป็นต้นอ่อนหรือต้นแก่ก็ตาม มันก็คงเป็นต้นเถาที่มีหัวด้วนเหมือนกันข้อนี้ฉันใด แม้ทุกข์มันจะอยู่ในอิริยาบถเก่าหรืออิริยาบถใหม่ก็ตาม มันก็เป็นทุกข์คือทนอยู่ไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ แต่มันเป็นความเข้าใจผิดของพวกเราเอง จึงได้ไปตู่เอาอิริยาบถใหม่ว่าเป็นความสุข นี่แหละท่าจึงกล่าวว่า "อิริยาบถ ปิดบังทุกข์" เหตุนั้น การที่ท่านสอนให้คอยเฝ้าพิจารณาดูอิริยาบถ ก็เพื่อประโยชน์ที่จะให้เห็นทุกข์นั่นเองฯ

mail.gif (4673 bytes)
จัดทำโดย
มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
flower.gif (1468 bytes)