|
|
![]() |
![]()
"ทุกขเวทนา" อันนี้ใครๆก็รู้
คือเมื่อเดินหรือยืนนานๆก็เป็นทุกข์
อย่างนี้ใครๆเขารู้กันทั้งนั้น
แต่ทว่าทุกข์ในอิริยาบถใหม่หามีใครรู้ไม่
เพราะทุกคนเมื่อถูกความทุกข์ในอิริยาบถเก่าบีบคั้นเข้า
ต่างคนต่างก็ผลัดเปลี่ยนไปหาอิริยาบถใหม่ด้วยกันทั้งนั้น
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเห็นผิด
โดยคิดไปว่าถ้าเราเปลี่ยนอิริยาบถเสียได้ก็จะสบาย
นี่ทุกคนคิดกันอย่างนี้ทั้งนั้น
แต่หารู้ไม่ว่าแม้ถึงอิริยาบถใหม่ที่ตนคิดว่าสบายนั้นก็เป็นตัวทุกข์เหมือนกัน
แต่ทุกข์ชนิดนั้นเป็นของละเอียดเราจะรู้ไม่ได้ด้วยสามัญสำนึกของคนโดยทั่วไป
ท่านได้เปรียบความทุกข์ในอิริยาบถเก่ากับทุกข์ในอิริยาบถใหม่ว่า
เหมือนกับเถาหัวด้วน
ธรรมดาของต้นเถาหัวด้วนมักจะเป็นต้นอ่อนหรือต้นแก่ก็ตาม
มันก็คงเป็นต้นเถาที่มีหัวด้วนเหมือนกันข้อนี้ฉันใด
แม้ทุกข์มันจะอยู่ในอิริยาบถเก่าหรืออิริยาบถใหม่ก็ตาม
มันก็เป็นทุกข์คือทนอยู่ไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ
แต่มันเป็นความเข้าใจผิดของพวกเราเอง
จึงได้ไปตู่เอาอิริยาบถใหม่ว่าเป็นความสุข
นี่แหละท่าจึงกล่าวว่า "อิริยาบถ
ปิดบังทุกข์" เหตุนั้น
การที่ท่านสอนให้คอยเฝ้าพิจารณาดูอิริยาบถ
ก็เพื่อประโยชน์ที่จะให้เห็นทุกข์นั่นเองฯ |
|