คำนำ
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตร
ส่วนมากสำนักต่างๆเท่าที่มีอยู่ในประเทศไทย
ก็มักอ้างว่าสำนักของตนถูกและตรงตามหลักด้วยกันทั้งนั้น
และต่างก็มักจะแสดงผลว่าสามารถทำให้หลุดพ้นจากวัฏฏทุกข์ได้จริง
ในเรื่องเหล่านี้
ใครๆก็ไม่อาจรู้กันได้
แต่ที่น่าแปลกก็คือบางทีในการปฏิบัติแบบเดียวกัน
สูตรเดียวกัน บรรพเดียวกัน ข้อเดียวกัน ก็น่าจะมีวิธีการเหมือนกัน
แต่กลับไปต่างกันเสียอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือก็มี
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เลยไม่ทราบว่าของสำนักใดถูกกันแน่
เพราะแต่ละสำนักต่างก็อ้างว่าวิธีของตนๆ
แน่และถูกด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้
ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า
แบบฉบับจากพระบาลี อรรถกถา
ซึ่งเป็นพุทธาธิบาย
เป็นหลักที่ควรยึดเอาเป็นหลักเกณฑ์ได้
เพราะการสังคายนาแต่ละครั้ง
ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของท่านผู้แตกฉานและสิ้นจากกิเลสาสวะหรือพระขีณาสพด้วยกันทั้งนั้น
ยิ่งกว่านั้นก็เป็นพระมหาเถระชั้นหัวกะทิที่ได้รับการคัดเลือกมาดีแล้ว
จึงเชื่อว่าพอจะนำเอามาเป็นหลักเกณฑ์และกรุยทางแห่งการปฏิบัติวิปัสสนาได้ดีเป็นแน่
เพื่อให้การอ้างมีน้ำหนัก ข้าพเจ้าจึงได้ยกเอาอักษรบาลีและอรรถกถา
ตลอดถึงฎีกา วางไว้ด้านหนึ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นก็แปลเป็นภาษาไทยเข้าไว้ เพื่อท่านผู้รู้ทั้งหลายจะได้อาสัยอักษรบาลีนั้นๆเป็นหลักในการเทียบเคียง
หากท่านไม่ชอบใจการแปลตอนใด
ท่านจะแปลเอาใหม่ที่เห็นว่าถูก
ว่าควร
ท่านก็สามารถจะแปลได้ตามชอบใจ
นอกจากนั้น
ข้าพเจ้ายังได้นำเอาข้อความที่เกี่ยวกับการปฏิบัติในบรรพนี้
มาอธิบายขยายความเป็นเชิงถามและตอบไว้อีก
๑๒ ข้อ ซึ่งก็เข้าใจว่า
คงจะช่วยให้ท่านผู้สนใจเกิดความสว่างได้ตามควร
เพราะฉะนั้น
ในงานเปิดเรียนพระปริยัติธรรมประจำปี
ของสำนักเรียนวัดศรีประวัติ
จึงได้จัดพิมพ์วิธีปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักมหาสติปัฏฐาน
เฉพาะอิริยาบถบรรพ
เพื่อแจกเป็นธรรมทานและเป็นอนุสรณ์ในงานด้วย
จึงคาดว่าจะเป็นประโยชน์แด่ท่านผู้ที่สนใจในหลักธรรมปฏิบัติไม่มากก็น้อย
หากเกิดมีความผิดพลาดขึ้นในตอนใด
ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ก็หวังว่าคงได้รับการแนะนำจากท่านผู้รู้ในวิชานี้ด้วยความกรุณาเสมอ |