ปริจเฉทที่ ๘ ปัจจยสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94
95 96 ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

นัยแห่งการเทสนา

ปฏิจจสมุปปาทธรรม ๑๒ องค์นี้ พระพุทธองค์ทรงเทสนาเป็น ๔ นัย ดังปรากฏใน สังยุตตนิกาย ว่า

. อนุโลมเทสนา หรือ อาทิปริโยสาน อนุโลมเทสนา แสดงแต่เบื้องต้น จนถึงที่สุด คือตั้งแต่ อวิชชาเป็นลำดับไปจนถึง ชรา มรณะ

. มัชฌปริโยสาน อนุโลมเทสนา หรือ มัชฌโตปัฏฐายปริโย สานปวัตต เทสนา แสดงแต่ท่ามกลางไปจนถึงที่สุด คือ ตั้งแต่เวทนาตามลำดับไปจนถึงชรา มรณะ

. ปฏิโลมเทสนา หรือ ปริโยสานอาทิปฏิโลมเทสนา แสดงแต่เบื้องปลาย สุด ย้อนทวนมาหาต้น คือ ตั้งแต่ชรามรณะทวนกลับมาถึงอวิชชา

. มัชฌอาทิปฏิโลมเทสนา หรือ มัชฌโตปัฏฐายอาทิปวัตตเทสนา แสดง แต่ท่ามกลางย้อนทวนมาหาต้น คือ ตั้งแต่ตัณหาทวนกลับมาถึงอวิชชา

ข้อ ๑ อนุโลมเทสนานั้น ส่วนมากแสดงแก่สัตว์ที่มีกำเนิดเป็น ชลาพุชะ และอัณฑชะ (คือ คัพภเสยยกกำเนิด) ซึ่งเป็นสัตว์ที่โดยปกติมีทุกข์มากกว่าสุข เพื่อให้รู้ว่าที่ได้รับผลเช่นนั้นเนื่องมาจากอะไรเป็นสาเหตุ จะได้ไม่หลงโทษว่าพระ อินทร์ พระพรหม หรือพระเจ้าเป็นผู้บรรดาลให้เป็นไป จึงแสดงถึงผลก่อน เพื่อให้รู้ ว่าที่ปรากฏผลเช่นนั้นเนื่องมาจากเหตุอะไร เช่น สังขาร ๓ อันเป็นผลปรากฏขึ้นมา ก็เพราะมีอวิชชาเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่มีอวิชชาเป็นต้นเหตุแล้ว จะปรากฏผลให้มีสังขาร ๓ ขึ้นมาไม่ได้เลย ในทำนองเดียวกัน วิญญาณอันเป็นผลปรากฏขึ้นมาได้ก็เพราะมี สังขาร ๓ เป็นต้นเหตุ ตามลำดับมาจนที่สุด ชรา มรณะ อันเป็นผลนั้น ก็ปรากฏ ขึ้นมาเพราะมีชาติเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่เกิดมีชาติขึ้นมา ก็ไม่มีผลให้มีการแก่และการ ตายข้อนี้แสดงผล

ข้อ ๒ มัชฌปริโยสานอนุโลมเทสนานั้น ส่วนมากแสดงแก่ สัตว์ที่เป็นโอป ปาติกกำเนิด (มีเทวดาและพรหม เป็นต้น) ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีทุกข์น้อย มีความสุข สบายเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ใคร่เชื่อผล(นัตถิกทิฏฐิ) ไม่เชื่อว่า ตายแล้วจะต้องเกิด ในภายหน้าอีก เป็นผู้ที่มี วิภวตัณหา(อุจเฉททิฏฐิ) ข้อนี้แสดงเพื่อให้แจ้งในอนาคต

ข้อ ๓ ปฏิโลมเทสนานั้น ส่วนมากแสดงแก่สัตว์ที่ยึดมั่นในสัสสตทิฏฐิ ที่ เห็นว่าสัตว์และโลกเที่ยง (ภวตัณหา) เป็นจำพวกที่ไม่เชื่อเหตุ (อเหตุกทิฏฐิ) ข้อนี้ แสดงถึงเหตุก่อน เพื่อให้เห็นธรรมอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ตามลำดับ คือมี ชรา มรณะก็เพราะมีชาติ มีชาติก็เพราะได้ทำกัมมภพ มีกัมมภพก็เพราะยึดมั่นในอุปา ทาน ฯลฯ ฯลฯ ข้อนี้แสดงเหตุ

ข้อ ๔ มัชฌอาทิปฏิโลมเทสนานั้น ส่วนมากแสดงแก่สัตว์ที่ยึดมั่นว่า สัตว์ โลกและกรรมต่าง ๆ นั้น เมื่อตายแล้วก็สูญหมด (อุจเฉททิฏฐิ) ซึ่งไม่เชื่อทั้งเหตุ ทั้งผล (อกริยทิฏฐิ) จึงแสดงให้เห็นว่าสัตว์จะดำรงคงอยู่ได้ด้วยอาหาร อาหารต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ด้วยอาศัยตัณหาเป็นเหตุให้เกิด ตัณหาจะปรากฏขึ้นได้ก็ด้วยอาศัยเวทนา เป็นเหตุ เวทนาก็อาศัยผัสสะเป็นเหตุ ฯลฯ ฯลฯ ข้อนี้แสดงเพื่อให้แจ้งในอดีต

สอบถาม ปัญหาธรรมะ ได้ที่ลานธรรมมูลนิธิ ค่ะ...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...